ท่อ PPR เอเอ็นอาร์โร ลดสูงสุด 60%

ท่อเขียว หรือ ท่อ PPR
ที่เราใช้เรียกกันบ่อยๆเป็นเพียงชื่อย่อ โดยชื่อเต็มของท่อ PPR มาจาก Polypropylene Copolymer Random คือพลาสติกประเภทโพลีโพรไพลีน ที่มีการจัดเรียงตัวแบบไม่เจาะจง ทำให้ได้คุณสมบัติทางเคมีและทางกายภาพที่ดีขึ้น ทนทาน สะอาดปลอดภัย ความหนาแน่นสูง แสงลอดผ่านไม่ได้ เหมาะสมสำหรับการใช้จ่ายน้ำในงานระบบท่อน้ำประปา หรือการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคได้เป็นอย่างดี ซึ่งงานระบบท่อประปาถือว่าเป็นหัวใจหลักในการลำเลียงน้ำไปยังส่วนต่างๆภายในอาคาร เพื่อจ่ายน้ำสะอาดไปยังห้องของผู้พักอาศัย ผู้ใช้งาน หากท่อประปาที่เลือกใช้ในอาคารได้คุณภาพ ก็จะไม่มีปัญหาการซ่อมแซมในภายหลัง
คุณสมบัติที่ดีของท่อ PP-R
-1 มีความแข็ง ความเปราะและแตกง่ายน้อยกว่า HDPE และมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า LDPE มีผิวแข็ง ทนทานต่อการขีดข่วนคงตัวไม่เสียรูปง่าย มีความทนทานมากสามารถทำเป็นบานพับในตัว
-2 เมื่อไม่ได้ผสมสีมีลักษณะขาวขุ่น ไม่ทึบแต่ไม่ใส ทึบแสงกว่าพอลิเอทิลีน (PE) แต่ไม่ใสเท่ากับพอลิสไตรีน (PS)
-3 มีน้ำหนักเบา เนื่องจากมีความหนาแน่นน้อย ในช่วง 0.855 – 0.946 g/cm3 ด้วยเหตุนี้จึงสามารถลอยน้ำได้เช่นเดียวกันกับพอลิเอทิลีน
-4 มีจุดหลอมเหลวสูง 130–171องศาเซลเซียส จึงสามารถทนอุณหภูมิสูงที่ใช้ในการฆ่าชื้อ (Sterilization : 100 องศาเซลเซียส) ได้
-5 เป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดีมาก แม้ที่อุณหภูมิสูง
-6 มีความต้านทานการซึมผ่านของไอน้ำและก๊าซได้ดี
-7 ทนทานต่อสารเคมีส่วนมาก ได้แก่ กรด ด่าง แอลกอฮอล์ ตัวทำละลายอินทรีย์ แต่จะเกิดการพองตัว อ่อนนิ่ม หรือพื้นผิวเป็นรอยได้ในสารเคมี ที่มีองค์ประกอบเป็นคลอรีน หรือไฮโดรคาร์บอนทั้งชนิดอะโรมาติกและอะลิฟาติก เนื่องจากพอลิโพไพลีนมีคุณสมบัติไม่มีขั้วสามารถดูดซึมสารที่ไม่มีขั้วได้ดี ดังนั้นจึงสามารถทนต่อสารที่มีขั้วได้ดีกว่า และพอลิโพรไพลีนจะพองตัวและสลายตัวได้ในสารเคมีที่เป็นตัวออกซิไดซ์ที่แรง เช่น ไอกรดไนตริก กรดซัลฟิวริกเข้มข้นและร้อน

เข้าใจ ง่ายๆ ท่อppr คือท่อสำหรับระบบท่อน้ำประปาท่อน้ำร้อนเป็นท่อพลาสติกคุณภาพสูงทนทานต่อการใช้ในระบบน้ำธรรมดาจนถึงน้ำร้อนทนแรงดันน้ำได้สูงมีความทนทานยืดหยุ่นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสะอาดไร้กลิ่นปลอดภัยสามารถใช้ท่อ ppr เป็นท่อน้ำดื่มได้ถูกสุขอนามัยต่อผู้บริโภคมักจะใช้ ท่อppr เพื่อเดินน้ำร้อนและน้ำอุ่นในอาคารโดยมีอายุการใช้งานของท่อนานถึง 50 ปีสามารถใช้ร่วมกับท่อประปาชนิดอื่นๆได้
ข้อดีของ ท่อPPR
- มีอายุการใช้งานนานถึง 50 ปี
- ไม่เกิดตะไคร่ในท่อน้ำ
- ไม่เกิดสนิมโลหะและตะกรัน
- สามารถใช้ร่วมกับท่อประปาชนิดอื่นได้
- สะอาด ไร้กลิ่น ปลอดภัย
- มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย แต่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่เปราะ แตก หัก ง่าย
- ไม่ใช้กาวในการเชื่อมกับข้อต่อจึงทดสอบระบบน้ำได้ทันทีไม่เหม็นกลิ่นกาว ทำให้ไม่มีสารเคมีปนเปื้อนในน้ำ
- สามารถต่อเข้ากับท่อ PVC หรือท่อชนิดอื่นๆได้ไม่จำเป็นต้องเป็น ppr กับ ppr เท่านั้น
- ซ่อมแซมได้เมื่อท่อรั่วไม่ต้องเปลี่ยนท่อใหม่
- แรงดันน้ำได้สูงกว่า PVC
- รองรับการใช้ในระบบน้ำร้อนทนอุณหภูมิได้สูงถึง 95 องศา
- ทนแรงดันได้สูงถึง 25 บาร์
ท่อ PPR เอเอ็นอาร์โร
ใช้เม็ดพลาสติกคุณภาพยุโรปได้รับใบรับรองมาตรฐาน DIN 8077–8078, DIN 16887, ISO/TR 9080, ISO 3213 ไม่ใช้เม็ด recycle ท่อและข้อต่อผลิตจากโรงงานเดียวกัน เม็ดพลาสติกชนิดเดียวกัน ทำให้การเชื่อมผสานเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์ ไม่รั่วซึม
QUALFICATION CERTIFYCATE
13 ใบ การันตีคุณภาพ

WRAS : มาตรฐานสากลจากประเทศอังกฤษได้รับการยอมรับจากกรีนพีซ ด้านความสะอาดและปลอดภัยสูงสุด สามารถใช้กับน้ำอุณหภูมิสูงได้ไม่เป็นอันตรายต่อการอุปโภคและบริโภค
NSF : มาตรฐานสากลจากประเทศสหรัฐอเมริการับรองผลิตภัณฑ์สำหรับความปลอดภัยของอาหาร
CCC : สินค้ามีความปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบเชิงลบสิ่งแวดล้อม
DVGW type : ท่อและข้อต่อทุกชนิดรับรองคุณภาพจากประเทศเยอรมันนี และประเทศสเปน สามารถใช้เป็นท่อน้ำดื่มได้
DIN 8077-8078 : การันตีคุณภาพการใช้งานยาวนาน 50 ปีใต้อุณหภูมิแรงดันตามที่มาตรฐาน DIN กำหนด
ท่อPPR เหมาะกับงานไหนประเภทไหนบ้าง ?
- ระบบท่อประปาน้ำร้อนถึงเย็นที่พักอาศัยและสถานประกอบการเช่นบ้านพักอาศัยโรงพยาบาลโรงแรมอาคารสำนักงานห้างสรรพสินค้าและอื่นๆอีกมากมาย
- ระบบท่อน้ำเย็นเครื่องปรับอากาศด้วยคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบาและไม่เกิดสนิมและผุกร่อนมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าท่อเหล็กเคลือบสังกะสี
- ระบบขนส่งสารเคมีได้หลากหลายในโรงงานอุตสาหกรรมระบบท่อน้ำสำหรับการผลิตในอุตสาหกรรมอาหารและเคมีที่เป็นของเหลวอื่นๆ
- ระบบท่อลมภายในโรงงานลดปัญหาการรั่วซึม 100 % ของลมตามข้อต่อต่าง และสามารถรับแรงดันได้ถึง 25 บาร์ (ท่อของ ANRRO)